ในบรรดาสูตรบาคาร่ามากมาย “สูตรเคลลี่” เป็นรูปแบบการเล่นที่ผู้เล่นระดับกลางถึงระดับสูงใช้ ไม่ว่าจะเป็นด้วยวิธีมังกรวิธีการมองเห็นการแทงแบบแบน … ฯลฯ ก็ไม่สามารถเทียบได้กับ “สูตรเคลลี่” เหตุผลง่ายๆคือ เทคนิคที่กล่าวมาข้างต้นใช้ได้กับบาคาร่าหรือเกมคาสิโนเท่านั้น แต่สามารถใช้ “สูตรเคลลี่” กับบาคาร่าได้เท่านั้น นักลงทุนหุ้นจำนวนมากจะใช้ “สูตรเคลลี่” เป็นการลงทุน เครื่องมือ.
ผู้เล่นหลายคนที่มักจะกังวลในชีวิตไม่สามารถเปลี่ยนความใจร้อนขณะเล่นไพ่ได้ ในความเป็นจริงเมื่อเล่นบาคาร่าหนึ่งในตัวละครที่มีผลต่อการชนะมากที่สุดคือตัวละครที่วิตกกังวล คุณรู้ดีว่าบาคาร่าเป็นเกมที่ต้องใช้ความอดทน การใจร้อนเกินไปจะทำให้คุณเสียเงินในเกมมากขึ้นเท่านั้น บางครั้งการเรียนรู้ที่จะใช้เวลาก็เป็นวิธีที่ดีในการเก็บชัยชนะในเกม
ก่อนอื่นรู้ว่าการชนะเงินในบาคาร่าคือการแบ่งเวลา บางครั้งแม้ว่าคุณจะสังเกตรูปแบบของเกมคุณก็ไม่สามารถชนะเงินจากการเดิมพันได้ในขณะนี้ ดังนั้นการอดทนรอเวลาที่เหมาะสมคือทักษะเกมที่จำเป็นในบาคาร่า
เรียนรู้ที่จะอดทนรอโอกาสที่ดีในการเดิมพันเพื่อชนะเงินในเกมบาคาร่าและเวลาที่ใช้ในการเดิมพันจะสะท้อนให้เห็นมากขึ้นในการสังเกตเกม
ไม่ใช่ว่าคุณไม่จำเป็นต้องทำอะไรเลยเมื่อคุณลากเวลา คุณต้องสังเกตเกมด้วย คุณต้องสังเกตผู้ชนะในเกมนี้อย่างรอบคอบ เมื่อคุณพบผู้ชนะของเกมและมุ่งเน้นไปที่ผู้เล่นคนเดียวคุณสามารถวางเดิมพันได้ ยิ่งไปกว่านั้นเวลาล่าช้าจะปรากฏขึ้นเมื่อคุณเสียเงินคุณต้องสังเกตเกม หากคุณพบว่าตัวเองแพ้ติดต่อกันหลายครั้งอย่ารีบวางเดิมพัน ในขณะนี้คุณสามารถเลื่อนเวลาการเดิมพันได้ อย่าจบการเดิมพันทั้งหมดในครั้งเดียวคุณสามารถรอสองสามรอบเพื่อเดิมพัน
การเล่นเกมการพนันต้องใช้ทักษะ แต่ทักษะนี้ต้องได้รับการสอนจากผู้อื่นและต้องอาศัยประสบการณ์ส่วนตัวในการคิดเพราะทักษะการเดิมพันของคนอื่นอาจไม่เหมาะกับคุณ
เกมใด ๆ ต้องใช้ทักษะบางอย่าง ทักษะนี้ไม่ได้มีมา แต่กำเนิด แต่เป็นผลมาจากประสบการณ์ในภายหลัง แน่นอนว่าบาคาร่าไม่มีข้อยกเว้นในจุดนี้ เห็นได้ชัดกว่าเกมอื่น ๆ แน่นอนว่าบาคาร่าไม่ใช่เกมไขปริศนา แต่ทักษะและประสบการณ์ก็สำคัญมากสำหรับการเล่นบาคาร่า แน่นอนว่ายังมีอีกหลายคนที่มีแนวโน้มที่จะชนะเงินเมื่อพวกเขาเป็นสามเณร คนอร์ไม่จำเป็นต้องใช้ทักษะและประสบการณ์ ในความเป็นจริงนี่เป็นมุมมองที่ผิด ไม่มีความกดดันเมื่อคุณเป็นมือใหม่ ความไม่คุ้นเคยของเกมเป็นเพียงความบันเทิงเท่านั้น แต่สถานการณ์จะเปลี่ยนไปหลังจากที่คุณค่อยๆคุ้นเคยกับเกม มันเร็วมาก
สูตรเคลลี่
พูดง่ายๆคือสูตร Kelly เป็นสูตรที่คำนวณอัตราส่วนการเดิมพันที่ดีที่สุดตามอัตราต่อรองเพื่อให้ได้กำไรจากการพนันสูงสุด
“ ตลาดหุ้นเป็นคาสิโนขนาดใหญ่โดยพื้นฐานแล้วคนที่ไม่คิดอย่างนั้นจะไร้เดียงสา” หากลองคิดดูดีๆแล้วคุณจะเข้าใจว่าวิธีการที่สนามม้าแบ่งปันการเดิมพันนั้นเป็นระบบตลาดหุ้น ทุกคนเข้าไปเดิมพันและโอกาสจะเปลี่ยนไปตามการเปลี่ยนแปลงของเงินเดิมพัน นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในตลาดหุ้น
เป็นเพราะความคล้ายคลึงกันอย่างมากระหว่างตลาดหุ้นและคาสิโนทำให้สูตรของ Kelly พัฒนาขึ้นอย่างราบรื่นจากเครื่องมือของนักพนันไปสู่เครื่องมือของนักลงทุน
ความแตกต่างคือนักพนันส่วนใหญ่ยอมรับว่าพวกเขาเป็นนักพนันและนักลงทุนส่วนใหญ่ไม่คิดว่าพวกเขามีความสัมพันธ์ทางการเงินกับนักพนัน
นี่คือเหตุผลที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนในตลาดหุ้นบางคนยังเป็นนักโป๊กเกอร์มืออาชีพ ตัวอย่างเช่นบัฟเฟตต์ชอบเล่นบริดจ์และเน้นย้ำถึงความคล้ายคลึงกันระหว่างการลงทุนและการเล่นบริดจ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
นอกจากนี้เดวิดไอน์ฮอร์นกูรูด้านการลงทุนผู้บริหารเงินเกือบ 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐและเคยทำรายได้ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับเลห์แมนบราเธอร์สซึ่งเป็นเซียนโป๊กเกอร์สมัครเล่น! ที่โต๊ะสุดท้ายของ World Series of Poker (WOSP) ในปี 2012 David Einhorn ได้รับรางวัลที่สามในฐานะนักธุรกิจและได้รับเงินรางวัล 4.35 ล้านดอลลาร์!
สูตรของ Kelly ที่ทำให้ bigwigs เหล่านี้เป็นที่ชื่นชอบคืออะไร?
สูตร Kelly นั้นง่ายมาก:
f * คือสัดส่วนของเงินทุนที่มีอยู่ซึ่งควรเดิมพันในครั้งต่อไป
b คืออัตราต่อรองสำหรับการเดิมพัน
p คืออัตราการชนะ
q คืออัตราความล้มเหลวคือ 1- p
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือคุณต้องคำนวณอัตราต่อรองและคำนวณความน่าจะเป็นที่จะชนะจากนั้นคุณจะรู้ว่าจะวางเดิมพันนี้กี่ตำแหน่ง
สมมติว่าคุณมีเงิน 1,000 บาทในการเล่นเกมทอยเหรียญ 2 ต่อ 1 ถ้าเหรียญเป็นหัวคุณจะชนะ 2 บาท ถ้าเหรียญติดลบเสีย 1 บาท คุณมีอัตราการชนะ 50% (p = 0.50, q = 0.50) หากคุณชนะคุณจะได้รับ 2 เท่าของราคา (b = 2) จากนั้นคุณควรเดิมพัน 25% ของเงินทุนของคุณในแต่ละครั้ง (f * = 0.25) เพิ่มรายได้สูงสุด
หลังจากเอ็ดเวิร์ด ธ อร์ปนักคณิตศาสตร์ที่มีชื่อเสียงได้อ่านบทความของจอห์นเคลลี่เขาได้สอนตัวเองเป็นครั้งแรก Fortran และพัฒนาชุดอัลกอริทึมเฉพาะสำหรับแบล็คแจ็คโดยใช้เมนเฟรมของ IBM เขาพาครูสอนพิเศษของ John Kelly และสร้างรายได้หลายล้านในลาสเวกัส ดอลลาร์สหรัฐ.
ต่อจากนั้นเพื่อนคนนี้ได้จัดตั้งกองทุนป้องกันความเสี่ยง: Princeton Newport Partners ตั้งแต่ปี 2511 ถึงปี 2531 มูลค่าสุทธิของกองทุนป้องกันความเสี่ยงนี้เพิ่มขึ้น 14.5 เท่าในขณะที่ S&P 500 เพิ่มขึ้นเพียง 5 เท่าในช่วงเวลาเดียวกัน