สุดยอดเกมพนันโป๊กเกอร์หรือ Poker เกมที่เรามักเห็นว่าคนเล่นนั้นจะนั่งนิ่งมาก ๆ ไม่ค่อยใช้คำพูด แต่เน้นเรื่องของความคิดและหลักจิตวิทยาสูง นั่นคือเกมพนันที่เรียกว่า โป๊กเกอร์ ด้วยรูปแบบการเล่นที่ต้องอาศัยทักษะสูง ไม่แปลกหากเราจะเห็นว่านักพนันที่เล่นโป๊กเกอร์จะมีสีหน้าเคร่งเครียดมาก ๆ ในทุกเกมที่ลงทำการแข่งขัน เป็นอีกหนึ่งในเกมไพ่ออนไลน์ได้เงินจริงของเรา
แต่ข้อดีสุด ๆ ของโป๊กเกอร์ก็คือหากคุณมั่นใจจนเป็นผู้ชนะก็รับเงินก้อนใหญ่ไปใช้ได้เลย อย่างไรก็ตามด้วยความจุกจิกของกติกาการเล่นพนันชนิดนี้จึงอยากนำเสนอให้ทุกคนได้เข้าใจกันก่อน
กติกาพื้นฐานของโป๊กเกอร์
เริ่มต้นด้วยการทำความเข้าใจกติกาพื้นฐานของเกมพนันโป๊กเกอร์กันก่อน หลัก ๆ แล้วจะเป็นการใช้คำพูดของคนเล่นว่าต้องการทำอย่างไรระหว่างเล่นประกอบไปด้วย
- สู้หรือผ่าน – เป็นการเปิดหัวก่อนเลยว่าคนที่เล่นมีไพ่ในมือดีมากน้อยแค่ไหน โดยต้องมองจากคนที่เอ่ยก่อนตัวผู้เล่นเป็นหลัก คือ หากคนเล่นก่อนหน้ายังสู้และเกทับไป นักพนันที่เล่นอยู่ก็ต้องสู้ เพราะถ้าไม่สู้คือหมอบและเสียเงินทันที แต่ถ้าคนเล่นก่อนหน้าบอกว่าผ่าน เราก็มีสิทธิ์ผ่านโดยไม่ต้องหมอบและเสียเงิน
- หมอบ – เมื่อเห็นว่าไพ่ในมือไม่ดี หรือน่าจะสู้คนอื่น ๆ ในวงไม่ได้ และไม่ต้องการเสียเงินเกทับไปมากกว่านี้ ก็ให้บอกว่าหมอบแล้วคว่ำไพ่ทันที เป็นอันจบเกม ๆ นั้นของตัวผู้เล่นคนดังกล่าวในรอบที่กำลังเล่นอยู่
- เกทับ – เป็นการสู้ด้วยการใส่จำนวนเงินที่จะเล่นเข้าไปมากกว่าคนอื่น ๆ กรณีนี้ความคิดของคนเล่นจะแบ่งได้เป็น 2 แบบคือ ไพ่สวยจริง ๆ มั่นใจว่าชนะแน่ ก็เกทับไปเรื่อย ๆ อีกแบบคือไพ่ไม่ดีแต่ต้องการหลอกไต๋ให้คนอื่นตกใจจนหมอบกันไปหมดเอง หากเกกันไปเรื่อย ๆ เมื่อคนเล่นคนอื่นหมอบหมดก็ถือว่าชนะไม่ต้องเปิดไพ่ตนเอง แต่ถ้ายังเกทับกันอยู่ คนที่เกสูงกว่าจะได้สิทธิ์เปิดไพ่อีกฝ่ายก่อนแล้วค่อยเปิดของตนเอง ซึ่งการเกนั้นจะมีอีกรูปแบบเรียกว่า เกทับหมดหน้าตัก หมายถึง เกเงินที่มีทั้งหมดลงสู้เลยเพื่อขอดูไพ่อีกฝ่าย ส่วนมากคนที่เกแบบนี้คือมั่นใจว่ายังไงไพ่ตนก็ชนะชัวร์
การนับแต้มเพื่อเอาชนะของโป๊กเกอร์
โป๊กเกอร์จะมีการแจกไพ่ทั้งหมด 5 ใบ โดยใบแรกจะหงายไพ่เพื่อให้เห็นว่าหน้าไพ่ใครใหญ่ที่สุดจึงได้เรียกเพิ่มพร้อมเกเงินกันไปเรื่อย ๆ หน้าไพ่นี้เองคือสิ่งที่จะบอกว่าท้ายที่สุดใครจะเป็นฝ่ายชนะ โดยอีก 4 ใบที่เหลือจะแจกแบบคว่ำหน้าไพ่ และการไล่เรียงลำดับจากไพ่ต่ำสุดไปไพ่สูงสุดมีดังนี้
- หน้าไพ่สูง คือ การนับตัวเลขบนไพ่โดยไม่มีความพิเศษใด ๆ ทั้งสิ้น กรณีไพ่สูง A คือแต้มใหญ่สุด , 2 คือแต้มต่ำสุด แล้วก็ไล่เรียงกันไป ใครมีไพ่ในมือมีสูงกว่าก็ชนะ
- หน้า 1 ไพ่คู่ คือ บนมือมีไพ่เลขเหมือนกัน 2 ใบ 1 คู่
- หน้าไพ่ 2 คู่ คือ บนมือมีไพ่เลขเหมือนกัน 2 ใบ 2 คู่ เช่น 2, 2, 5, 5, 7 แบบนี้นับว่าเป็น 2 คู่
- หน้าไพ่ตอง คือ ไพ่บนมือมีเลขเหมือนกัน 3 ใบ
- หน้าไพ่สเตรท หรือ เรียง คือไพ่บนมือมีการเรียงตัวเลขกันโดยจะไล่ตั้ง A, 1-10, J, Q, K และ A หากไพ่ในมือเรียงกันช่วงใดช่วงหนึ่งตามนี้ เรียกว่าหน้าไพ่เรียง
- หน้าไพ่ฟลัช หรือ สี คือคือหน้าไพ่ที่มีดอกเดียวกันทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น ดอกจิก, ข้าวหลามตัด, โพแดง หรือโพดำ
- หน้าไพ่ฟูลเฮาส์ หรือ เห่า คือการมีไพ่ตองกับไพ่คู่อย่างละ 1 ชุดบนมือ เช่น 3, 3, 3, A, A เป็นต้น
- หน้าไพ่โฟร์การ์ด หรือ หอน คือไพ่ 4 ใบในมือมีแต้มเหมือนกันทั้งหมด เช่น A, A, A, A เป็นต้น
- หน้าไพ่สเตรทฟลัช คือ การที่ไพ่มีทั้งสเตรทรวมกันประกอบไปด้วย ไพ่เรียงกันและเป็นดอกเดียวกัน
- หน้าไพ่รอยัลสเตรทฟลัช คือการที่ไพ่ขอบ หมายถึง 10, J, Q, K, A เรียงกัน และเป็นดอกเดียวกันทั้งหมด
อย่างไรก็ตามหากไพ่ของคู่แข่งที่เปิดหน้าออกมาเป็นแบบเดียวกัน เช่น ได้ไพ่ตองเหมือนกันก็ต้องย้อนกลับไปดูดอกของไพ่ว่าใครใหญ่ที่สุด หากใครใหญ่กว่าก็เป็นฝ่ายชนะไป แต่ส่วนมากคนที่เล่นจริง ๆ มักจะไม่ค่อยเล่นกันจนถึงการเปิดหน้าสู่กันขนาดนั้นเพราะต่างคนต่างก็ระวังเป็นอย่างดี ไม่กล้าเสี่ยงหากไม่มั่นใจในไพ่บนมือของตนเองว่าดีจริงหรือไม่
สรุปการเล่นโป๊กเกอร์
จัดว่าการเล่นพนันอย่างโป๊กเกอร์นอกจากมีเรื่องดวงเข้ามาเกี่ยวข้องแล้ว เรื่องของจิตวิทยา ความมั่นใจ สีหน้าท่าทาง ก็มีผลต่อการเล่นมาก ๆ ยกตัวอย่างง่าย ๆ เมื่อไพ่มาแล้วเราสังเกตสีหน้าคนอื่นจะพบว่าไพ่ในมือเขาดีหรือไม่ คู่แข่งมีความมั่นใจในการกล้าสู้มากน้อยแค่ไหน เป็นเสมือนจิตวิทยาเล็ก ๆ ให้เราได้ควบคุมจิตใจตนเองพร้อมทั้งพยายามอ่านความคิดคนอื่นให้ออกด้วย คนที่ชอบเล่นโป๊กเกอร์จึงรู้สึกท้าทายและมีความพิเศษมากกว่าการเล่นเกมพนันทั่ว ๆ ไปที่พวกเขาเคยเจอมานั่นเอง