การรอคอยมายาวนานถึง 4 ปีใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว เมื่อถนนทุกสายของแฟนบอลจากทั่วทุกมุมโลกเริ่มนับถอยหลังสู่ฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้ายที่กาตาร์ช่วงปลายปีนี้แล้ว
32 ทีมที่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย จะได้เดินทางไปแข่งขันที่กาตาร์ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ชาติจากตะวันออกกลางจะได้เป็นเจ้าภาพด้วย โดยมีเป้าหมายเพียงหนึ่งเดียวคือการคว้าแชมป์มาครองให้ได้
มีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นที่จะเป็นแชมป์ แต่แน่นอนว่าระหว่างทางตลอดการแข่งขัน แฟนฟุตบอลจะได้พบกับความตื่นเต้นเร้าใจตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์แน่นอน GOAL จึงรวบรวมทุกสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับฟุตบอลโลก 2022 รอบสุดท้ายที่กาตาร์มาไว้ที่นี่
Editor Picks
โปรแกรมถ่ายทอดสดฟุตบอล – ดูบอลสดคืนนี้ (พรีเมียร์ลีก, ไทยลีก, ลาลีกา, บุนเดสลีกา, แชมเปี้ยนส์ลีก, ฯลฯ)
Thai League 2021 Top Assists : สรุปอันดับจอมแอสซิสต์ไทยลีก
ดาวซัลโวไทยลีก 2021 : แฮมิลตันผงาดดาวยิง
IN NUMBERS : ลิโอเนล เมสซี ยิงได้กี่ประตูในชีวิตค้าแข้ง?
ประวัติศาสตร์หน้าใหม่กำลังจะถูกจารึกอีกครั้งในปี 2022 เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่ฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายจะจัดขึ้นที่ประเทศในแถบตะวันออกกลางอย่างกาตาร์
การแข่งขันจะถูกปรับมาจัดขึ้นช่วงปลายปีในเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนธันวาคมทั้งหมด 28 วัน แทนที่ปกติซึ่งจะจัดในช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนกรกฎาคม เนื่องจากต้องหลีกร้อนอากาศร้อนช่วงกลางปีที่กาตาร์นั่นเอง
สนาม 8 แห่งใน 5 เมืองของกาตาร์ ถูกเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันครั้งนี้โดยเฉพาะ ซึ่งนัดเปิดสนามจะเริ่มแข่งขันที่สนามอัล บายท์ สเตเดียม วันที่ 21 พฤศจิกายน กระทั่งจบการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศที่สนามลูเซล ไอคอนิก สเตเดียม ในวันที่ 18 ธันวาคม
การจับสลากสำหรับฟุตบอลโลก 2022 เกิดขึ้นเมื่อใด?
การจับสลากแบ่งกลุ่มสำหรับรอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2022 จะจัดขึ้นที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมของกรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ ในวันที่ 1 เมษายน
เจอร์เมน จีนาส, คาร์ลี ลอยด์ และ ซาแมนธา จอห์นสัน จะรับหน้าที่เป็นสามพิธีกรหลักของพิธีการจับสลาก โดยที่มีคนดังจากวงการฟุตบอลต่าง ๆ หลากหลายชาติมาร่วมเป็นผู้จับสลากด้วยทั้ง คาฟู (บราซิล), โลธาร์ มัทเธอุส (เยอรมัน), อาเดล อาห์เหม็ด มัลอัลลาห์ (กาตาร์), อาลี ดาอี (อิหร่าน), โบรา มิลูติโนวิช (เซอร์เบีย), เจย์-เจย์ โอโคชา (ไนจีเรีย), ราบาห์ มาดเจอร์ (แอลจีเรีย) และ ทิม เคฮิลล์ (ออสเตรเลีย)
29 ชาติที่ได้ผ่านเข้ารอบสุดท้าย จะถูกแบ่งออกเป็น 4 โถ ตามอันดับในแรงกิ้งของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ส่วนตัวแทนอีก 3 ชาติที่ยังต้องรอเพลย์ออฟ จะถูกจับไปอยู่ในโถ 4 โดยอัตโนมัติ
ทีมใดเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2022 ไปแล้วบ้าง?
ปัจจุบันมีทีมผ่านเข้ารอบสุดท้ายไปแล้วทั้งหมด 29 ทีม โดยยังขาดอีก 3 ทีม ที่ยังต้องเตะเพลย์ออฟช่วงเดือนมิถุนายน
เริ่มจากรอบเพลย์ออฟโซนยุโรป ซึ่งยังเหลือการแข่งขันในสายเอ ที่ต้องเลื่อนไปแข่งช่วงเดือนมิถุนายน เนื่องจากทางประเทศยูเครนกำลังอยู่ในภาวะสงคราม โดยผู้ชนะของคู่สกอตแลนด์กับยูเครน จะได้ผ่านเข้าไปเจอกับเวลส์ เพื่อชิงตั๋วใบสุดท้ายของโซนยุโรป
ส่วนอีก 2 ทีม จะมาจากการเพลย์ออฟข้ามทวีป ได้แก่ ผู้ชนะของคู่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่พบกับออสเตรเลีย จะได้เป็นทีมอันดับ 5 ของโซนเอเชียเข้าไปเจอกับ เปรู ทีมอันดับ 5 ของโซนอเมริกาใต้ ส่วนอีกคู่เป็น คอสตาริก้า ทีมอันดับ 4 จากโซนคอนคาเคฟ จะได้เจอกับ นิวซีแลนด์ ทีมแชมป์จากโซนโอเชียเนีย
รายชื่อทีมที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลกปี 2022 สามารถดูได้ที่ด้านล่าง
| ทีม | โซน |
|---|---|
| กาตาร์ | เอเชีย |
| บราซิล | อเมริกาใต้ |
| เบลเยียม | ยุโรป |
| ฝรั่งเศส | ยุโรป |
| อาร์เจนตินา | อเมริกาใต้ |
| อังกฤษ | ยุโรป |
| สเปน | ยุโรป |
| โปรตุเกส | ยุโรป |
| เม็กซิโก | คอนคาเคฟ |
| เนเธอร์แลนด์ | ยุโรป |
| เดนมาร์ก | ยุโรป |
| เยอรมัน | ยุโรป |
| อุรุกวัย | อเมริกาใต้ |
| สวิตเซอร์แลนด์ | ยุโรป |
| สหรัฐอเมริกา | คอนคาเคฟ |
| โครเอเชีย | ยุโรป |
| เซเนกัล | แอฟริกา |
| อิหร่าน | เอเชีย |
| ญี่ปุ่น | เอเชีย |
| โมร็อกโก | แอฟริกา |
| เซอร์เบีย | ยุโรป |
| โปแลนด์ | ยุโรป |
| เกาหลีใต้ | เอเชีย |
| ตูนิเซีย | แอฟริกา |
| แคเมอรูน | แอฟริกา |
| แคนาดา | คอนคาเคฟ |
| เอกวาดอร์ | อเมริกาใต้ |
| ซาอุดีอาระเบีย | เอเชีย |
| กานา | แอฟริกา |
| ยูเออี/ออสเตรเลีย/เปรู | (รอยืนยัน) |
| คอสตาริก้า/นิวซีแลนด์ | (รอยืนยัน) |
| สกอต์แลนด์/ยูเครน/เวลส์ | ยุโรป |
การจับสลากแบ่งสายฟุตบอลโลก 2022 เสร็จสิ้นลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา
กลุ่มที่ถือเป็น “กรุ๊ป ออฟ เดธ” คือกลุ่มอี ซึ่งสองอดีตแชมป์อย่างสเปนกับเยอรมันต้องมาเจอกันแต่หัววัน รวมถึงยังมีทีมดังของเอเชียอย่างญี่ปุ่นรวมอยู่ด้วย
| กลุ่มเอ | กลุ่มบี |
|---|---|
| กาตาร์ | อังกฤษ |
| เอกวาดอร์ | อิหร่าน |
| เซเนกัล | สหรัฐอเมริกา |
| เนเธอร์แลนด์ | เวลส์/สกอตแลนด์/ยูเครน |
โปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 และเวลาแข่งขันแต่ละคู่?
ฟุตบอลโลก 2022 จะเริ่มแข่งขันตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน โดยเซเนกัลจะลงเตะเป็นคู่เปิดสนามเจอกับเนเธอร์แลนด์
รอบแบ่งกลุ่มจะแข่งขันเสร็จสิ้นในวันที่ 2 ธันวาคม โดยจะได้ 16 ทีมผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์
โปรแกรมการแข่งขันรอบ 16 ทีมสุดท้าย จะแข่งชันระหว่างวันที่ 3-6 ธันวาคม ส่วนรอบก่อนรองชนะเลิศจะแข่งขันระหว่างวันที่ 9-10 ธันวาคม
รอบรองชนะเลิศจะแข่งขันในวันที่ 13-14 ธันวาคม โดยผู้แพ้ต้องไปเล่นในรอบชิงอันดับสามวันที่ 17 ธันวาคม ส่วนผู้ชนะจะได้ผ่านเข้าไปเล่นในรอบชิงชนะเลิศวันที่ 18 ธันวาคม
วิธีรับชมถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022?
มีรายงานว่าฟีฟ่าจะได้รับเงินจากการขายลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกประมาณ 1.41 พันล้านปอนด์เลยทีเดียว
สำหรับชาวสหราชอาณาจักร์ สามารถรับชมการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 ได้ทาง BBC และ ITV
ทั้งสองสถานีรับหน้าเสื่อถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกมาตั้งแต่ครั้งก่อนเมื่อปี 2018 ซึ่งลิขสิทธิ์ครอบคลุมทั้งการทำรายการโทรทัศน์, วิทยุ และทางออนไลน์อีกด้วย
ส่วนในสหรัฐอเมริกา จะถ่ายทอดสทาง Fox ซึ่งบรรยายเกมเป็นภาษาอังกฤษ และทาง Telemundo ที่จะบรรยายเกมเป็นภาษาสเปน
ทั้งสองช่องยังจะถือลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดไปจนถึงการแข่งขันครั้งต่อไปในปี 2026 ซึ่งสามชาติอย่างสหรัฐอเมริกา, แคนาดา และเม็กซิโก จะเป็นเจ้าภาพร่วมกันอีกด้วย
ส่วนการถ่ายทอดสดในประเทศไทย ยังต้องรอการยืนยันอีกครั้ง
ใครคือทีมเต็งที่จะคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกปี 2022?
บราซิล ซึ่งเพิ่งจะผงาดขึ้นอันดับหนึ่งในฟีฟ่าแรงกิ้ง ถูกยกให้เป็นเป็นทีมเต็ง 1 ที่จะคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2022
พวกเขาคือทีมที่คว้าแชมป์มากที่สุดตลอดกาล 5 สมัย แต่ครั้งล่าสุดที่ทำได้ ต้องย้อนไปถึงเมื่อ 20 ปีก่อนเลยทีเดียว
ฝรั่งเศส แชมป์เก่าเมื่อครั้งก่อนและอดีตแชมป์ 2 สมัย ถูกยกเป็นเต็ง 2 และมีโอกาสสูงที่จะป้องกันแชมป์ได้
อังกฤษ ถูกยกเป็นเต็ง 3 เนื่องจากทำผลงานได้ดีต่อเนื่อง ตั้งแต่การคว้าอันดับ 4 ฟุตบอลโลก 2018 และคว้ารองแชมป์ยูโร 2020 ซึ่งพวกเขาหวังจะยุติการรอคอย 56 ปี ด้วยการคว้าแชมป์ให้ได้อีกครั้ง
ส่วนตัวเต็งอื่น ๆ ก็มีทั้ง สเปน และ เยอรมัน ซึ่งต้องเจอกันตั้งแต่ในรอบแรก ขณะที่ อาร์เจนตินา ก็หวังจะคว้าแชมป์ให้ได้ เพราะอาจจะเป็นฟุตบอลโลกครั้งสุดท้ายของ ลิโอเนล เมสซี แล้วด้วย
ด้าน เบลเยียม ถือเป็นช่วงท้าย ๆ ในยุคทองของตัวเองแล้ว ซึ่งหากยังไปถึงฝั่งฝันไม่ได้ ครั้งต่อ ๆ ไป โอกาสก็อาจจะยากกว่าครั้งนี้แล้ว ขณะที่ โปรตุเกส ก็หวังจะได้แชมป์ครั้งแรกเพื่อส่งท้าย คริสเตียโน โรนัลโด้ ซึ่งอาจจะฟุตบอลโลกครั้งสุดท้ายของเขาด้วย เช่นเดียวกับทาง เมสซี
สำหรับทีมที่มีโอกาสเป็นม้ามืดก็มีทั้ง เนเธอร์แลนด์ ซึ่งคุมทัพโดยกุนซือจอมแท็กติกอย่าง หลุยส์ ฟาน กัล ซึ่งใครก็ประมาทไม่ได้ รวมถึงทาง สหรัฐอเมริกา และ เม็กซิโก ก็หวังจะทำผลงานให่ได้ที่สุด ก่อนที่จะได้เป็นเจ้าภาพครั้งต่อไปในปี 2026