โครเอเชีย 1-1 บราซิล (โครเอเชียชนะจุดโทษ 4-2)
(0-1 เนย์มาร์ น.105+1, 1-1 บรูโน เพ็ตโควิช น.116)
รายชื่อผู้สังหารจุดโทษ
โครเอเชีย – นิโกลา วลาซิช (เข้า), ลอฟโร มาเยอร์ (เข้า), ลูก้า โมดริช (เข้า), มิสลาฟ ออร์ซิช (เข้า)
คู่แรกของรอบ 8 ทีม แข่งขันในช่วง 22.00 น. ระหว่าง โครเอเชีย ลงเล่นที่สนามเอดูเคชั่น ซิตี้ สเตเดียม ในเมืองอัล รายยาน ของเจ้าภาพกาตาร์ พบกับ บราซิล
เกมในช่วง 90 นาที ทั้งสองทีมยังทำอะไรกันไม่ได้ ทำให้จบเกมเวลาปกติสกอร์ยังเสมอกันอยู่ 0-0 ต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 30 นาที
กระทั่งช่วงต่อเวลาพิเศษนาทีที่ 105+1 กลายเป็นฝั่งของบราซิลมาได้ประตูขึ้นนำ จากความสามารถเฉพาะตัวของ เนย์มาร์ ที่หลุดเข้าเขตโทษไปแตะหลบ โดมินิค ลิวาโควิช ผู้รักษาประตูโครเอเชียแล้วยิงด้วยขวาตุงตาข่าย ส่งให้อดีตแชมป์ 5 สมัยออกนำ 1-0
ทว่านาทีที่ 116 โครเอเชียมาได้ประตูตีเสมอ จากจังหวะที่ มิสลาฟ ออร์ซิช ไหลบอลทางกราบซ้ายเข้ากลางให้ บรูโน เพ็ตโควิช ยิงด้วยซ้ายแฉลบ มาร์ควินญอส เปลี่ยนทางเข้าไป ทำให้สกอร์ขยับมาเท่ากันที่ 1-1
จากนั้นไม่มีประตูเกิดขึ้นเพิ่มเติมอีก ทำให้สุดท้ายจบ 120 นาที เสมอกัน 1-1 ต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ
ช่วงดวลจุดโทษกลายเป็นโครเอเชียที่ยิงแม่นกว่าเอาชนะไปได้ 4-2 ตีตั๋วผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลก 2022 ได้สำเร็จเป็นทีมแรก
เนเธอร์แลนด์ 2-2 อาร์เจนตินา (อาร์เจนตินาชนะจุดโทษ 4-3)
(0-1 นาอูเอล โมลินา น.35, 0-2 ลิโอเนล เมสซี น.73 (จุดโทษ), 1-2 เวาท์ เวกฮอร์สท์ น.83, 2-2 เวาท์ เวกฮอร์สท์ น.90+11)
รายชื่อผู้สังหารจุดโทษ
เนเธอร์แลนด์ – เฟอร์จิล ฟานไดค์ (ไม่เข้า), สตีเฟน เบิร์กไฮส์ (ไม่เข้า), เทิน คูปไมเนอร์ส (เข้า), เวาท์ เวกฮอร์สท์ (เข้า), ลุค เดอ ยอง (เข้า)
อาร์เจนตินา – ลิโอเนล เมสซี (เข้า), เลอันโดร ปาเรเดส (เข้า), กอนซาโบ มอนเทียล (เข้า), เอ็นโซ เฟร์นานเดซ (ไม่เข้า), เลาตาโร มาร์ติเนซ (เข้า)
Getty
คู่ที่ 2 ของรอบ 8 ทีม แข่งขันในช่วง 2.00 น. ระหว่าง เนเธอร์แลนด์ ลงเล่นที่สนามลูเซล สเตเดียม ในเมืองลูเซล ของเจ้าภาพกาตาร์ พบกับ อาร์เจนตินา
ครึ่งแรกดำเนินมาจนถึงนาทีที่ 35 เป็นฝั่งของอาร์เจนตินามาได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะที่ ลิโอเนล เมสซี จ่ายทะลุช่องเข้าเขตโทษให้ นาอูเอล โมลินา หลุดไปดีดด้วยขวาตุงตาข่าย ส่งให้ฟ้าขาวออกนำ 1-0 และจบ 45 นาทีแรกด้วยสกอร์นี้
ครึ่งหลังอาร์เจนตินามาได้จุดโทษ ในนาทีที่ 73 จากจังหวะที่ มาร์กอส อคุนญา ไปโดน เดนเซล ดุมฟรีส์ เกี่ยวขาล้มลงไป ก่อนจะเป็น ลิโอเนล เมสซี รับหน้าที่สังหารไม่พลาด ทำให้ฟ้าขาวหนีห่างเป็น 2-0
แต่เนเธอร์แลนด์ยังไม่ยอมง่าย ๆ เมื่อมาได้ประตูตีไข่แตกในช่วงท้ายเกมนาทีที่ 83 จากจังหวะที่ สตีเฟน เบิร์กไฮส์ เปิดบอลทางกราบขวาเข้าเขตโทษให้ เวาท์ เวกฮอร์สท์ โฉบมาโหม่งอย่างเด็ดขาด ทำให้อัศวินสีส้มไล่มาเป็น 1-2
ยิ่งไปกว่านั้นในช่วงทดเวลานาทีที่ 90+11 เนเธอร์แลนด์มาได้ประตูตีเสมอ จากลูกฟรีคิกหน้าเขตโทษที่ เทิน คูปไมเนอร์ส เลือกเล่นสั้นจ่ายเรียดให้ เวาท์ เวกฮอร์สท์ จับแล้วยิงด้วยซ้ายตุงตาข่าย เป็นลูกสองของเจ้าตัวในเกมนี้ด้วย ทำให้สกอร์ขยับมาเท่ากันที่ 2-2 กระทั่งจบเกมเวลาปกติ 90 นาทีด้วยสกอร์นี้ ต้องต่อเวลาพิเศษอีก 30 นาที ซึ่งก็ยังไม่มีประตูเพิ่มเติม ก่อนจบ 120 นาทีด้วยสกอร์ 2-2 เท่าเดิม ต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ
ช่วงดวลจุดโทษกลายเป็นอาร์เจนตินาที่ยิงแม่นกว่าเอาชนะไปได้ 4-3 ตีตั๋วผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลก 2022 ไปพบกับโครเอเชีย